น้ำปัสสาวะ หรือ ฉี่ เกิดจากไตต้องการขับของเสียในรูปแบบของเหลวออกจากร่างกาย เพื่อรักษาสมดุลระดับน้ำภายในร่างกาย แล้วน้ำปัสสาวะมาจากไหน? มาจากกระบวนการคัดกรองน้ำจากเลือดเพื่อไม่ให้เลือดมีภาวะเป็นกรดและด่างมากเกินไป ก่อนส่งเลือดกลับไปเลี้ยงหัวใจและส่วนต่างๆ ในร่างกาย ในแต่ละวันไตสามารถผลิตน้ำปัสสาวะได้ประมาณวันละหนึ่งลิตรครึ่ง
แล้วน้ำปัสสาวะ หรือ ฉี่ เกี่ยวอะไรกับการบำบัดรักษาโรคละ!! ความเชื่อนี้น่าจะมีการอ้างอิงมาจากหนังสือที่มีชื่อว่า “ยาพระพุทธเจ้า น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรค” เขียนโดย นิดดา หงษ์วิวัฒน์ (สำหรับท่านที่สนใจสามารถหาอ่านได้ที่สำนักพิมพ์แสงแดด) ในหนังสือจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ธรรมชาติบำบัด” ถ่ายทอดความรู้ความชำนาญในเรื่องของธรรมชาติบำบัด สอนการปรับสมดุลร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพ ทำให้ร่างการเเข็งเเรง เเละอธิบายว่า “น้ำปัสสาวะ” ทำไมจึงเป็นยาที่พระพุทธเจ้าแนะนำให้บรรดาภิกษุทั้งหลายฉัน (ดื่ม) เพื่อรักษาโรค
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกมาเตือนว่า…. การนำปัสสาวะมาดื่ม ทา หรือหยอดตานั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะในน้ำปัสสาวะประกอบด้วย น้ำ และเกลือแร่ (พบในปริมาณน้อย) ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของเสียจากการย่อยโปรตีน เช่น ยูเรีย แอมโมเนีย คีโตน ครีตินีน และอาจปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรืออาจมีไข่พยาธิปนเปื้อนอยู่ด้วย ฉะนั้นนอกจากจะไม่หายจากโรคเดิมแล้ว อาจทำให้อาการหนักมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้อาจมีความเสี่ยงและอาการอื่นๆ ตามมา เช่น
• เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
• คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
• อาจได้รับสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต โรคตับ โรคหัวใจ อาจอาการแย่ลงได้
หากมีข้อสงสัยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร น่าจะดีกว่าการดื่มนำปัสสาวะ ข้อมูลอ้างอิงจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา